Historical Background

ปัจจัยการสร้างสรรค์ความเจริญของอารยธรรมอียิปต์

อารยธรรมอียิปต์ได้ชื่อว่าเป็นของขวัญจากแม่น้ำไนล์ (The gift of the Nile) เนื่องจากลักษณะที่ตั้งของอียิปต์และสภาพภูมิศาสตร์ในลุ่มแม่น้ำไนล์มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และการสร้างสรรค์อารยธรรมอียิปต์ นอกจากนี้แล้วระบอบ การปกครอง ตลอดจนภูมิปัญญาของชาวอียิปต์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์์อารยธรรมของอียิปต์

ปัจจัยทางภูมิศาสตร์

สภาพภูมิศาสตร์ของอียิปต์โดยทั่วไป มีลักษณะร้อน และ แห้งแล้ง ลุ่มแม่น้ำไนล์แบ่งออกเป็น 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณอียิปต์ล่าง ตั้งอยู่บริเวณที่ราบปากแม่น้ำไนล์ เป็นบริเวณที่แม่น้ำไนล์แยกเป็นแม่น้ำสาขามีลักษณะเป็นรูปพัด ซึ่งชาวกรีกโบราณเรียกว่า “เดลตา” แล้วไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อารยธรรมโบราณของอียิปต์ ได้เจริญขึ้นบริเวณแถบนี้ และบริเวณอียิปต์ตอนบน ได้แก่ บริเวณที่แม่น้ำไนล์ไหลผ่านหุบเขา เป็นที่ราบแคบๆ ขนาบด้วยหน้าผาที่ลาดกว้าง ยาวไปจนสุดสายตา เต็มไปด้วยเนินเขาที่ แห้งแล้ง ถัดจากหน้าผาคือทะเลทราย อียิปต์เปรียบเสมือนโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย ทางทิศตะวันตก คือทะเลทรายลิบเบียนและทะเลทรายซะฮารา ทิศตะวันออก คือทะเลทรายนูเบีย ทะเลทรายดังกล่าวเปรียบได้กับปราการธรรมชาติที่ป้องกันอียิปต์จากการรุกรานของศัตรูและช่วยให้อียิปต์สามารถดำรงความเป็นอยู่อย่างสันโดษมีโอกาสสร้างสมอารยธรรมได้อย่างมั่นคงมาเป็นระยะเวลานาน ลักษณะภูมิอากาศของอียิปต์ พื้นที่อียิปต์เป็นทะเลทราย มีความแห้งแล้ง และฝนตกน้อยมาก มีอุณหภูมิเฉลี่ยประจำปีสูง บางปีไม่มีฝนเลย บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีสภาพภูมิอากาศเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน คือ ช่วงฤดูหนาวมีฝนตกเล็กน้อย และฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ชาวอียิปต์โบราณจึงต้องอาศัยแม่น้ำไนล์ หล่อเลี้ยงชีวิต นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกโบราณได้กล่าวถึงอียิปต์ไว้ว่า “Egypt is the gift of the Nile” ดินแดนอียิปต์มีทรัพยากรไม่มากนัก ที่มีอยู่มากคือ หินทราย ซึ่งชาวอียิปต์นำมาใช้ในการก่อสร้าง ดินเหนียวนำมาทำเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนแร่ธาตุมีทองแดง และพลอยในบริเวณคาบสมุทรซีนาย อนึ่ง ลักษณะที่ตั้งของอียิปต์ซึ่งถูกปิดล้อมด้วยพรมแดนธรรมชาติที่สำคัญ คือ ทะเลและทะเลทราย จะช่วยป้องกันการรุกรานจากภายนอก ทำให้ชาวอียิปต์สามารถพัฒนาและหล่อหลอมอารยธรรมได้ต่อเนื่องยาวนานและมีเอกลักษณ์ของตนเอง


ระบอบการปกครอง

จักรวรรดิอียิปต์มีระบอบการปกครองที่มั่นคง ชาวอียิปต์ยอมรับอำนาจ และเคารพนับถือฟาโรห์ หรือกษัตริย์ของตนประดุจเทพเจ้าองค์หนึ่ง ดังนั้นฟาโรห์จึงมีอำนาจเด็ดขาดในการปกครอง และบริหารประเทศ ทั้งด้านการเมือง และศาสนา โดยมีขุนนาง เป็นผู้ช่วยในด้านการปกครอง และมีพระเป็นผู้ช่วยด้านศาสนา การที่ฟาโรห์มีอำนาจเด็ดขาดสูงสุดทำให้อียิปต์พัฒนาอารยธรรมของตนได้ต่อเนื่อง เพราะฟาโรห์สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาความเจริญตามแนวนโยบายของตนได้เต็มที่ เช่น การพัฒนาพื้นทujการเกษตรในเขตทะเลทรายที่แห้งแล้งด้วยการคิดค้นระบบชลประทาน การสร้างพีระมิดหรือสุสานขนาดใหญ่ไว้เพื่อเก็บศพของฟาโรห์ ตามความเชื่อทางศาสนา เรื่องโลกหลังความตาย การมีวิญญาณเป็นอมตะ และการคิดค้นปฏิทินเพื่อกำหนดฤดูกาลสำหรับการไถหว่านและเก็บเกี่ยว

ที่มาของภาพ: ประวัติศาสตร์โลก World History. (2564). อียิปต์โบราณและอาณาจักกูช. แผนที่อารยธรรมอียิปต์

Historical Background

ทรัพยากรธรรมชาติ

แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของอียิปต์จะเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้ง แต่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำไนล์ก็ประกอบด้วยหินแกรนิต และหินทราย ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญที่ ชาวอียิปต์ใช้ในการก่อสร้าง และพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรม วัสดุเหล่านี้มีความคงทน แข็งแรงและช่วยรักษามรดกทางด้านอารยธรรมของอียิปต์ ให้ปรากฏแก่ ชาวโลกมาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ต้นอ้อโดยเฉพาะปาปิรุส ซึ่งขึ้นชุกชุมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำไนล์ก็เป็นวัสดุธรรมชาติสำคัญที่ชาวอียิปต์ใช้ทำกระดาษ ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการบันทึกและสร้างผลงานด้านวรรณกรรม

ที่มาของภาพ: ประวัติศาสตร์โลก World History. (2564). อียิปต์โบราณและอาณาจักกูช. แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ริมแม่น้ำไนล์


Historical Background

ภูมิปัญญาของชาวอียิปต์

ชาวอียิปต์ เป็นชนชาติที่มีความสามารถในการคิดค้นเทคโนโลยีและวิทยาการความเจริญด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองการดำรงชีวิต ความเชื่อทางศาสนา และการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่จักรวรรดิอียิปต์ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ เรขาคณิต และฟิสิกส์ ได้ส่งเสริมความเจริญในด้านการก่อสร้างและสถาปัตยกรรม ความรู้ด้านดาราศาสตร์ช่วยให้ชาวอียิปต์ประดิษฐ์ปฏิทินรุ่นแรกๆ ของโลก ความสามารถในการประดิษฐ์อักษร “ไฮโรกลิฟิก” (Hieroglyphic) ทำให้เกิดการบันทึกเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนาและฟาโรห์ และความเจริญทาง การแพทย์ทำให้ชาวอียิปต์สามารถคิดค้นวิธีผ่าตัดเพื่อรักษาผู้ป่วย ตลอดจนใช้น้ำยารักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อยด้วยการทำมัมมี่ ความเจริญเหล่านี้ ทำให้สังคมอียิปต์เจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องหลายพันปี สามารถหล่อหลอมอารยธรรมของตนให้ก้าวหน้า และเป็นรากฐานของอารยธรรมตะวันตกในเวลาต่อมา

วิธีทำมัมมี่ของ ชาวอียิปต์โบราณ

การทำมัมมี่ของอียิปต์ใช้เวลาถึง 70 วัน มีขั้นตอนมากมายดังนี้

1. เกี่ยวสมองออกมาทางรูจมูก

2. นำกระเพาะอาหาร ตับ ลำไส้ และปอดแยกใส่ไหคาโนปิก ส่วนหัวใจเก็บไว้ ในร่างตามเดิม

3. พอกศพด้วยเกลือเนตรอน นาน 40 วัน เพื่อให้ศพแห้ง

4. พันผ้าลินิน และสอดเครื่องรางเข้าไประหว่างชั้นผ้านั้น

5. ปิดใบหน้าด้วยหน้ากาก แล้วใส่มัมมี่ลงในโลงซ้อนกัน 3 ชั้น นำโลงไปบรรจุไว้ ในสุสานพร้อมทรัพย์สมบัติให้ผู้ตายนำไปใช้ในโลกหน้า


ที่มาของภาพ: ห้องเรียน . (2564). ตำนานมัมมี่ ขั้นตอนการทำมัมมี่อียิปต์